อ.ต.ก. เดินหน้ายกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่เวทีโลก จัดงาน IFEX Connect 2025 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้กิจกรรม “โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงสู่ตลาดโลก (Thailand Intertrade)”

22-24 พฤษภาคม 2568 – องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสินค้าเกษตรไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยประกาศความพร้อมในการจัดงาน “IFEX Connect 2025” ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 22–24 พฤษภาคม 2568 ภายใต้ โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงสู่ตลาดโลก (Thailand Intertrade) ซึ่งเป็นกลไกเชิงยุทธศาสตร์เพื่อผลักดันสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของไทยเข้าสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน

โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงสู่ตลาดโลก (Thailand Intertrade) จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพของไทยไปยังต่างประเทศ โดยใช้พลังของ “ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power)” และโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy (Bio-Circular-Green Economy) เป็นแนวทางขับเคลื่อน ซึ่งสอดรับกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และการยกระดับมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตรจากรากฐานท้องถิ่นไปสู่ระดับโลก

นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า

“องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรมุ่งมั่นผลักดันสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรเมืองร้อน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศผ่านโครงการส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงสู่ตลาดโลก (Thailand Intertrade) ซึ่งเปรียบเสมือนเวทีโรดโชว์เชิงกลยุทธ์ ที่จะช่วยให้สินค้าเกษตรไทยได้รับการรับรู้และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรไทยในระยะยาว”

ภายในงาน IFEX Connect 2025 จะมีการจัดแสดงนิทรรศการสินค้าเกษตรคุณภาพสูงจากประเทศไทย ครอบคลุมทั้งผลผลิตสด และผลิตภัณฑ์แปรรูป อาทิ ข้าวหอมมะลิ,ข้าวเหนียว, ข้าวกล้อง, ข้าวขาว, มะพร้าวอบกรอบ,ทุเรียน Freeze Dried,มังคุด Freeze Dried,สับปะรด Soft Dried, ฝรั่งบ๊วย Soft Dried ฝรั่ง Soft Dried,ขนุน Soft Dried, มะม่วง Soft Dried และ กระเจี๊ยบ Soft Dried ซึ่งล้วนเป็นสินค้าที่ผ่านการคัดสรรจากกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการที่มีศักยภาพด้านการผลิตและการส่งออก โดยคำนึงถึงมาตรฐานสากล ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่หลากหลาย อาทิ การเจรจาธุรกิจแบบจับคู่ (Business Matching) การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และกิจกรรมสาธิตการทำอาหารไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ทางวัฒนธรรมควบคู่กับการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรไทยในฐานะ “ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมร่วมสมัย (Contemporary Cultural Products)” ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลก

ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเลือกประเทศฟิลิปปินส์เป็นคู่ค้า เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการบริโภคสูง มีความต้องการสินค้าเกษตรจากไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นฐานสำคัญในการเชื่อมโยงสู่ตลาดอาเซียนในภาพรวม

งาน IFEX Connect 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22–24 พฤษภาคม 2568 ณ บูธ L16–17, Hall D, World Trade Center Metro Manila, กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการ ผู้นำเข้าสินค้าเกษตร และผู้บริโภคในฟิลิปปินส์เข้าร่วมชมงานจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างโอกาสใหม่ทางการตลาดให้แก่เกษตรกรไทย และสนับสนุนเศรษฐกิจเกษตรของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว